ประวัติของการถักโครเชต์
ประวัติการถักโครเชต์ เริ่มขึ้นที่ไอร์แลนด์ ช่วงทศวรรษ 1820 มาดมัวแซล รีเอโก เดอ ลา บลองชาแดร์ หญิงสาวที่ชอบเย็บปักถักร้อยพบว่า ถ้านำอุปกรณ์เย็บปักถักร้อยของชาวไอริชมาถักลายลูกไม้แบบสเปนจะทำให้ดูสวยงามมากขึ้น จึงทดลองถักหลายครั้งหลายหนนานถึง 5 ปี จนในปี ค.ศ.1836 เธอออกหนังสือลายถักโครเชต์ แต่หนังสือไม่ได้รับการตีพิมพ์แพร่หลายเท่าใดนัก และชื่อเสียงของเธอจึงไม่ค่อยมีคนรู้จักจนกระทั่งทุกวันนี้
โครเชต์ (Crochet) เป็นภาษาฝรั่งเศษ หมายถึง “ตะขอ” เป็นกระบวนการในการสร้างโครเชต์ มาจากคำว่า croc หรือ croche แปลว่าตะขอ หมายถึงเครื่องมือที่ใช้ในการทำของใช้หรูหราในชีวิตประจำวัน การถักไหมพรมน่าจะมีมาตั้งแต่โบราณในเมืองจีน อาระเบียหรืออเมริกาใต้ ด้วยการนำด้าย ไหม ขนสัตว์มาถักทอเป็นห่วงโซ่ร้อยต่อกันจนเป็นผืนผ้าลวดลายงดงาม และได้รับความนิยมในยุโรปราว ค.ศ. 1800 สมัยแรกมนุษย์ใช้เพียงนิ้วชี้งอเป็นรูปตะขอถักเส้นไหม จึงไม่มีหลักฐานเป็นเครื่องมือ มาให้คนรุ่นหลังได้เห็น ภายหลังมีการพัฒนาเครื่องมือโครเชต์แทนนิ้วจากงาช้าง ทองเหลืองหรือไม้เนื้อแข็ง โครเชต์ในยุคแรกเริ่มเป็นงานกลุ่มแม่บ้าน เพราะชนชั้นสูงใช้เฉพาะลูกไม้ที่เรียกว่า lacc ถักลำบาก ด้วยกระสวยเรียกว่า Bobbin ต่อมาเมื่อพระราชินีวิกตอเรีย ทรงโปรดไอริชโครเชต์ ถึงขนาดลงมือถักด้วยพระองค์เอง ชนชั้นกลางในสมัยนั้นจึงเริ่มหันมาซื้อผลิตภัณฑ์โครเชต์จากกลุ่มแม่บ้าน
แนะนำอุปกรณ์ที่ใช้ในการถักตุ๊กตาโครเชต์
เข็มควัก หรือเข็มถักโครเชต์
เบอร์ที่นิยมใช้กันคือ เบอร์ 1 5 7 สำหรับเบอร์ 5 กับ 7 จะอยู่ในเล่มเดียวกัน เป็นเข็มทอง 2 ด้าน
การเลือกว่าจะใช้เข็มเบอร์ไหนขึ้นอยู่กับขนาดของตุ๊กตาที่จะถัก
เข็มเบอร์ จำนวนไหมพรม ขนาดตุ๊กตา
1 1 เส้น ขนาดเล็ก เช่น พวงกุญแจ ห้อยมือถือ หัวดินสอ
5 1 เส้น ขนาดกลาง เช่น ตุ๊กตาห้อยกระเป๋า หรือตั้งโชว์ สูงประมาณ 8-15 cm
7 2 เส้น ขนาดใหญ่ เช่น ตุ๊กตาตั้งโชว์ หรือเอาไว้กอด สูงประมาณ 15 cm ขึ้นไป
สำหรับตุ๊กตาแพทเทิร์นเดียวกัน เราสามารถถักให้ได้ขนาดต่างๆกันได้ โดยเลือกใช้เข็มและจำนวนไหมพรมต่างๆกัน
การใช้ไหมพรม 2 เส้น ก็เพียงแต่ดึงปลายอีกด้านออกมาจากกลางม้วน แล้วถักควบ 2 เส้น
ไหมพรม
ไหมพรมที่จำหน่ายในไทยมีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อจะมีรหัสสีกำกับ
ที่นิยมใช้กันคือ ยี่ห้อvenus eagle ดาหลา บาบาร่า ฯลฯ
เปรียบเทียบ venus จะแข็งว่า eagle และ venus จะเส้นเล็กกว่า
ไหมพรมที่ควรใช้ในการถักตุ๊กตาคือแบบ 4ply (เวลาขยี้ออกมาจะมี 4 เส้นเล็ก)
ไหมพรมอาจจำแนกได้อีกแบบตามลักษณะของสีคือ สีพื้น กับ สีเหลือบ
ใยสังเคราะห์ หรือใยโพลีเอสเตอร์
ใช้สำหรับยัดตุ๊กตา ใยสังเคราะห์ที่ดีจะต้องมีสีขาว สะอาดไม่มีสิ่งสกปรกปะปน
สำหรับตุ๊กตาถักเราจะยัดมากหรือน้อยแล้วแต่ความเหมาะสม
ส่วนที่ต้องการให้มีความแข็ง เช่น ลำตัว หัว ก็ยัดมากหน่อย
ส่วนที่ต้องการให้อ่อนหรือดัดได้ก็จะยัดน้อยหน่อย เช่น แขน เราจะยัดใยมากตรงปลายแขนเพื่อให้ดูป่องๆ
ส่วนที่ติดกับลำตัวจะยัดน้อยๆ เพื่อไม่ให้แขนกางเวลาเย็บประกอบ
หรือบางส่วนก็ไม่จำเป็นต้องยัดใย เช่น หู หรือ หาง
เข็บเย็บ
ในการทำตุ๊กตาถักเราจะถักส่วนประกอบต่างๆแยกจากกัน เช่น หัว ลำตัว แขน ขา
จากนั้นจึงนำมาเย็บประกอบกันด้วยเข็มเย็บ โดยใช้ไหมพรมสีเดียวกับส่วนประกอบที่เราจะเย็บติด
ไหมปักจมูก
เป็นด้ายมุกมันเส้นเล็กใช้ปักจมูกและปากสำหรับตุ๊กตาขนาดเล็ก และกลางจะมีความละเอียดประณีต
การปักใช้เข็มเย็บหรือเข็มสอยก็ได้ค่ะ
ส่วนตัวใหญ่อาจใช้ไหมพรมที่เราถักตุ๊กตาปักแทน โดยใช้เข็มเย็บในการปัก
ลูกตาตุ๊กตา
มีมากมายหลายแบบ และหลายขนาด สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ
สำหรับตุ๊กตาตัวเล็ก ที่นิยมใช้กันคือแบบลูกปัด เวลาเย็บประกอบก็ใช้ไหมพรมสีเดียวกับหัวเย็บติด
ส่วนตุ๊กตาตัวใหญ่มักใช้แบบกระดุมหรือก้านเสียบ
เพราะหากใช้แบบลูกปัดจะดูตาโปนถลนออกมา และเห็นไหมพรมที่ใช้เย็บชัดเจน
ส่วนแบบกลิ้งใช้กาว UHU แบบหลอดติดค่ะ
สำหรับตุ๊กตาตัวใหญ่มากๆอาจใช้ไหมพรมถัก หรือผ้ากำมะหยี่แทนค่ะ
ผ้าสักหลาด
ใช้ตกแต่ง หรือใช้ประดิษฐ์แทนส่วนประกอบต่าง เช่น ตา หมวก ชุดตุ๊กตา
ผ้าสักหลาดนั้นเป็นคนละชนิดกับผ้ากำมะหยี่ค่ะโดยเนื้อผ้าจะแตกต่างกัน
ผ้ากำมะหยี่จะเงา และนิ่มกว่าผ้าสักหลาด
โดยทั่วไปนิยมใช้ผ้าสักหลาดมาประดิษฐ์เป็นตุ๊กตา
การประกอบก็ใช้กาว UHU แบบหลอดติดกับไหมพรมได้เลยค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น